หลังจากที่ผ่านมาอย่างยาวนานกับ ดีลซื้อขาย มูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์ ของอีลอน มัสก์ ในเวลานี้ทาง ทวิตเตอร์ ก็ได้ทำการเรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นยอมรับดีลที่ว่านี้เสียที (22 มิ.ย. 2565) เริ่มเข้าสู่องค์สุดท้ายแล้วกับ ดีลซื้อขาย แพลตฟอร์มโซเซียลมีเดีย มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ของอีลอน มัสก์ (Elon Musk) โดยในเวลาทาง ทวิตเตอร์ (Twitter) ได้ทำการเรียกร้องให้บรรดาผู้ถือหุ้นยอมรับการซื้อขายดังกล่าว เพื่อที่จะให้เสร็จสิ้น
ทางคณะกรรมการบริหารได้กล่าวไว้ในเอกสารที่ส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “แนะนำอย่างอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คุณ (ผู้ถือหุ้น) ทำการหยั่งเสียงสำหรับการยอมรับข้อตกลงการซื้อขายนี้”
นอกจากนี้แล้วนั้น ทางบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ยังได้แนะนำให้ผู้ถือหุ้นทำการรับรอง “ผลตอบแทนที่อาจจะ/จะสามารถทำการจ่ายได้จากบริษัทแก่ผู้บริหาร (ที่มีชื่อ) ในการติดต่อกับผู้ซื้อขาย” และ “การปรับเปลี่ยนการประชุมพิเศษจากเป็นครั้งคราว มาเป็นแบบภายวันหนึ่ง หรือช่วงวันหนึ่ง ในกรณีที่มีความจำเป็น หรือมีความเหมาะสม เพื่อที่จะทำการหารือเพิ่มเติมถ้าหากเสียงโหวตยังไม่เพียงพอต่อการยอมรับข้อตกลง”
โดยในเวลานี้มูลค่าหุ้นของทวิตเตอร์ได้อยู่ที่ 38.12 ดอลลาร์ ซึ่งก็ถือว่ามีมูลค่าต่ำกว่าที่มัสก์ได้เสนอไว้ : 54.20 ดอลลาร์/หุ้น และมูลค่าตลาดของบริษัทนั้นก็ตกลงไป ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ดีลของอีลอนถือว่าส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นเวลานี้ทั้งหมด ในเวลานี้ดีลการซื้อขายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการบรรลุข้อตกลงต่าง ๆ ที่ทางมัสก์ได้ยื่นไว้ อย่างการเปิดให้เข้าถึงข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานของแพลตฟอร์ม และการเคลียร์ปัญหาที่จะตามจากการซื้อขายของตัวมัสก์ด้วย
ก้าวที่สอง คือเรื่องของอุปกรณ์ ทีมวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ยและการลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์มุ่งเน้นไปที่สมาร์ทโฟน แว่นตา อุปกรณ์สวมใส่ รวมถึง อุปกรณ์ระบบสัมผัส หัวเว่ยยังได้พัฒนาอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี XR รวมไปถึงโซลูชันระบบเสียงสามมิติ และยังสร้าง HetuEngine โซลูชัน AR สำหรับการใช้งานกับฉากเมือง
ในส่วนของขั้นตอนการใช้งานและการสร้างสรรค์ หัวเว่ยเน้นไปที่การวางแผนโดยอิงจากเทคโนโลยีหัวเว่ยคลาวด์ หัวเว่ยคลาวด์ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มคอนเทนต์ดิจิทัล MetaStudio และแพลตฟอร์มนี้จะมีส่วนช่วยในการผลักดันการพัฒนาเมตาเวิร์ส ให้ผู้ใช้งานสามารถผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์ให้กับโลกดิจิทัล
หัวเว่ยได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีอัลตราบรอดแบนด์ อย่าง 5G หรือแพลตฟอร์มสุดอัจฉริยะ เช่น การประมวลผลในคลาวด์ที่มีทั้งเทคโนโลยี AI, IOT บล็อกเชน และเมตาเวิร์ส หัวเว่ยจับตาดูเทคโนโลยีเหล่านี้สร้างบทบาทสำคัญขับเคลื่อนประสบการณ์การใช้งานและสร้างผลทางธุรกิจ ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจดิจิทัลได้ในที่สุด
ในฐานะหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัล หัวเว่ยจะเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็น และพร้อมร่วมงานกันพันธมิตรตลอดห่วงโซ่มูลค่าแบบครบวงจร เพื่อหาช่องทางการใช้งานที่เหมาะสมทั้งรูปแบบ B2B และ B2C เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการนำเมตาเวิร์สสู่โลกความจริง
ชาวเหมืองแห่เทขาย การ์ดจอ GeForce RTX กระหน่ำ
หนีตายกันทั่วหน้าก็ว่าได้กับการแห่เทขาย การ์ดจอ ไม่ว่า GeForce RTX และยี่ห้อ/รุ่นอื่น ๆ ของชาวเหมือง Crypto หลังมูลค่าเหรียญในตลาดลดลงต่อเนื่อง
(23 มิ.ย. 2565) หลังจากที่ตลาดของ Cryptocurrencies กำลังเผชิญกับวิกฤติการณ์อย่างต่อเนื่องในเวลานี้ บรรดาชาวเหมืองทั้งหลายต่างก็เริ่มที่จะสละเรือกันอย่างรวดเร็ว และเป็นจำนวนมาก ทำให้ในเวลานี้พวกเขาได้เริ่มดำเนินการเทขาย การ์ดจอ ต่าง ๆ ที่มีการใช้งานในการขุด อาทิ GeForce RTX และการ์ดจอยี่ห้อ/รุ่นอื่น ๆ
โดยพื้นที่ที่พบว่ามีการเทขายแบบกระจาดเลยนั้น ก็คือประเทศจีน และประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ ที่เริ่มมีการโละเหมืองทิ้งเพื่อนำเอาชิ้นส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การ์ดจอ” ออกมาขาย ผ่านแพลตฟอร์มตลาดมือสองต่าง ๆ หรือทำการถ่ายทอดสดประมูลขายกัน
อย่างเช่นในประเทศจีนที่บนเว็บไซต์ Xianyu (EBay เวอร์ชั่นจีน) ก็ได้มีการตั้งหน้าขายการ์ดจอ RTX 30 Series กันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว ตัวอย่างก็ได้แก่ RTX 3080 ที่วางขายในราคา 3,500 หยวน (18,527.46 บาท) และการถ่ายทอดสดประมูลขายบนเว็บไซต์ Baidu ที่ซึ่ง RTX 3060 Ti นั้น มีมูลค่าการประมูลอยู่ในช่วง $300 – $350
หรือจะเป็นที่ประเทศออสเตรเลียที่มีการตั้งขายแบบราคาเดียวกันทั้งหมด ; RX 6700 XT 19 ตัว ราคาตัวละ 440 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (10,753.66 บาท)
หลังจากที่ตลาดของ Cryptocurrencies อยู่ในช่วงที่ไม่ดีเท่าไหร่ และการทำเหมืองนั้น ไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้มากพออีกต่อไปแล้วนั้น ก็ทำให้มีการคาดการณ์ว่าบรรดาอุปกรณ์มือสองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงเกินไปนั้น จะเริ่มโผล่ออกมามากขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจ และมีความมั่นใจว่าการ์ดจอที่มีการใช้งานยาวนานต่อเนื่องแบบ 24/7 มาร่วม 1-2 ปีนั้น จะสามารถใช้งานได้ยาวนานพอนั้น ก็สามารถไปจับจองกันได้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป